WFS รับการรับรอง CEIV ที่ Paris CDG

0
1156

Worldwide Flight Services (WFS) ผู้ให้บริการภาคพื้นชั้นแนวหน้า ได้รับการรับรองมาตรฐาน CEIV Pharma จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สำหรับศูนย์ปฏิบัติการผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์แห่งใหม่ที่ท่าอากาศยาน Charles de Gaulle (CDG) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส  

ศูนย์ฯ แห่งใหม่นี้ เปิดทำการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ยาและชีววิยาศาสตร์ที่ท่าอากาศยาน CDG ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และกองรถขนส่งที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการขนส่งผลิตภัณฑ์ยาเวชภัณฑ์ ปัจจุบัน ศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้รองรับลูกค้าซึ่งเป็นสายการบินและบริษัทตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าแล้วมากว่า 30 ราย และคาดว่าจะรองรับปริมาณสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 8,000 ตัน ภายในปี 2020

Mr. Hugo Rodrigues รองประธานฝ่ายสินค้า WFS ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า “การลงทุนในศูนย์ปฏิบัติการสินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ ช่วยเสริมกลยุทธ์ของ WFS ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งยังช่วยสนองตอบความต้องการของลูกค้า ทั้งสายการบินและบริษัทตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้า ซึ่งในที่นี้ยังรวมถึงบริษัทยาชั้นนำที่ต้องการมาตรฐานการรับรองระดับสูงสุดเพื่อรักษาความสมบูรณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา การได้รับมาตรฐาน CEIV Pharma จาก IATA เพียงไม่นานหลังจากที่ศูนย์ฯ แห่งนี้เปิดทำการ สะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการปฏิบัติให้ได้ตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรม และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับท่าอากาศยาน Paris CDG ในฐานะเกตเวย์ด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศชั้นนำของโลก”            

WFS ลงทุนในศูนย์ปฏิบัติการสินค้ายาและเวชภัณฑ์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ในปี 2019 บริษัทฯ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ ในโคเปนเฮเกน โยฮันเนสเบิร์ก ไมอามิ และนิวยอร์ก (JFK)

ศูนย์ปฏิบัติการสินค้ายาและเวชภัณฑ์ขนาด 2,400 ตร.ม. แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตคลังสินค้าของท่าอากาศยาน CDG ให้บริการรับสินค้าทั้งภายในเขตการบิน (airside) และนอกเขตการบิน (landside) พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ภายในศูนย์ฯ มีลานขนถ่ายและพื้นที่ปฏิบัติการชิปเมนต์ยาและเวชภัณฑ์โดยเฉพาะ และประกอบด้วย

  • ห้องจัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 25°C สามารถรองรับแพเล็ตไม้ยูโรแบบวางซ้อน 4 ชั้น ได้จำนวน 108 ชิ้น
  • ห้องจัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8°C รองรับแพเล็ตไม้ยูโรแบบวางบนพื้นได้ 47 ชิ้น และสามารถจัดหาชั้นวางเพิ่มได้  
  • ห้องแช่แข็งขนาดเล็กสำหรับจัดเก็บสินค้าในอุณหภูมิ -20°C สามารถรองรับแพเล็ตไม้ยูโรได้ 9 ชิ้นต่อครั้ง    
  • พื้นที่จัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2 to 25°C สำหรับสินค้าที่บรรจุมาในตู้ ULD ซึ่งสามารถรองรับตู้ ULD ชนิด P2P ได้ 53 ตู้ หรือตู้ชนิด AKE ได้ 106 ตู้

ภายในศูนย์ฯ ยังนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ อาทิ ระบบดิจิทัลสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติการและความโปร่งใสของการจัดส่งสินค้า ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า (WMS) ที่รองรับการใช้งานบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ในคลังในแบบ real-time จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถติดตามสถานะของชิปเมนต์ในระหว่างจัดเก็บและขนส่งระหว่างศูนย์ฯ และเครื่องบินได้อย่างทันท่วงที และโซลูชันตรวจสอบอุณหภูมิแบบ cloud-based ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นในแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบเซ็นเซอร์ และสามารถเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ได้ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่    

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Pulse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม cloud-based ที่ WFS ใช้ร่วมกันทั่วโลกเพื่อบริหารจัดการและตรวจสอบความผิดปกติต่างๆ Pulse สามารถใช้งานได้ผ่านทางแอปลิเคชันมือถือ ดังนั้นจึงสามารถรายงานความผิดปกติและเข้าถึงข้อมูลได้ในแบบเรียลไทม์  

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Korean Air ปฏิบัติการเที่ยวบินขนส่งสินค้า เชื่อม Seoul – Budapest เที่ยวบินแรก
บทความถัดไปการบินไทยแต่งตั้งคุณจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่