Kuehne+Nagel จับมือ Novo Nordisk ปฏิบัติการขนส่งทางอากาศด้วยเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ

0
477
Novo Nordisk Kuehne+Nagel

Novo Nordisk หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพระดับโลก จับมือกับ Kuehne+Nagel ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ชั้นนำ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) โดยจะเป็นอีกก้าวสำคัญเพื่อเข้าใกล้เป้าหมายของ Novo Nordisk ในการปล่อยคาร์บอนจากปฏิบัติการและการขนส่งเท่ากับศูนย์ภายในปี 2030 ผ่านการตัดสินใจเลือกใช้เชื้อเพลิง SAF ปริมาณกว่า 12 ล้านลิตร ซึ่งจะเป็นการทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งหมดของ Novo Nordisk ผ่าน Kuehne+Nagel ในปี 2022

ด้วยเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนที่มีความท้าทาย Kuehne+Nagel เดินหน้าสนับสนุนผู้ใช้บริการที่ต้องการเปลี่ยนมาสู่โมเดลธุรกิจคาร์บอนต่ำด้วยการมอบโซลูชันที่หลากหลายในการลดหรือเลี่ยงการปล่อยคาร์บอน และหนึ่งในกิจกรรมหลักดังกล่าวก็คือการที่ Kuehne+Nagel ลงทุนปรับใช้เชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางอากาศ และขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดย Novo Nordisk เลือกใช้โซลูชันเชื้อเพลิงแบบยั่งยืนของ Kuehne+Nagel เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศในปี 2022 ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 30,000 ตัน

ความมุ่งมั่นดังกล่าวแสดงให้เห็นความต้องการตัวเลือกการขนส่งสินค้าคาร์บอนต่ำที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การผลิต พัฒนา และใช้งานเชื้อเพลิง SAF ที่มากขึ้น โดยความพยายามดังกล่าวของ Kuehne+Nagel มีส่วนสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเชื้อเพลิงแบบยั่งยืนในอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งสินค้าทางอากาศ

Mr. Yngve Ruud สมาชิกคณะกรรมการบริหาร บริษัท Kuehne+Nagel ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติการโลจิสติกส์ทางอากาศ กล่าวว่า “Novo Nordisk ไม่เพียงเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อต่อสู้กับโรคเบาหวานและโรคเรื้อรังรุนแรงต่างๆ แต่ยังเป็นผู้นำในการขนส่งสินค้าด้วยทางเลือกที่มีความยั่งยืนอีกด้วย ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่โซลูชัน SAF ระดับโลกของเราช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบคาร์บอนต่ำได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย ‘zero impact’ และยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการผลิตและใช้งานเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนมากขึ้นทั่วโลก”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Qatar Airways Cargo เดินหน้าสู่กระบวนการทำงานแบบดิจิทัล
บทความถัดไปIAG Cargo กลับมาให้บริการในเส้นทาง London – Tokyo รองรับสินค้าในเอเชียแปซิฟิก