FedEx จับมือ Microsoft พัฒนาแพลตฟอร์ม FedEx Surround พลิกโฉมซัพพลายเชน

0
1581

FedEx Corp. และ Microsoft Corp. ได้ประกาศความร่วมมือระยะยาว ในการร่วมกันพลิกโฉมกระบวนการค้าและโลจิสติกส์ โดยการบูรณาการเครือข่ายดิจิทัลและโลจิสติกส์ระดับโลกของ FedEx เข้ากับแพลตฟอร์มอัจฉริยะบนระบบคลาวด์ของ Microsoft ซึ่งขับเคลื่อนโดยบริการแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้ง Azure และ Dynamics 365 ที่ใช้โซลูชันด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ เพื่อมอบประสบการณ์การบริการที่เหนือกว่า พร้อมยกระดับศักยภาพในการแข่งขันให้กับลูกค้าผู้รับบริการ

“FedEx มีความมุ่งมั่นในการผลักดันซัพพลายเชนสู่ศักยภาพใหม่ๆ มาโดยตลอด ตั้งแต่ที่เราเริ่มเปิดดำเนินกิจการ และในวันนี้ เราก็ได้พาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สู่อีกระดับที่เหนือกว่าเดิม” Mr. Frederick W. Smith ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FedEx กล่าว “โดยความร่วมมือกับ Microsoft เราจะประสานพลังของเทคโนโลยี เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของเรา เพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรม และมอบเครือข่ายการบริการแห่งอนาคตให้กับลูกค้าของเรา”

ปัจจุบันเครือข่ายของ FedEx เชื่อมโยงกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติทั่วโลก ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศและเขตการปกครอง ในขณะที่ Microsoft Azure ก็ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ การผสานเครือข่ายของ FedEx เข้ากับแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ของ Microsoft จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ บรรลุขีดความความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของสินค้า รวมทั้งข้อมูลเชิงลึกในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

FedEx Surround เป็นผลลัพธ์อันดับแรกจากความร่วมมือระหว่าง FedEx และ Microsoft ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับซัพพลายเชนของลูกค้า ด้วยการมอบข้อมูลการติดตามชิปเมนท์ที่ใกล้เคียงกับเวลาจริงมากที่สุด ผ่านการวิเคราห์ข้อมูลของระบบ ช่วยขยายขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์และการคลังสินค้าให้มีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับกระบวนการโลจิสติกส์ที่ต้องการความเร่งด่วนในการจัดส่งสินค้า อาทิ การจัดส่งสินค้าจำเป็นทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ หรือการจัดส่งอะไหล่ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องจักรการผลิต เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสายการผลิตต้องหยุดชะงัก

FedEx Surround ยังสามารถรวบรวมข้อมูลจากจุดต่างๆ ผ่านการสแกนและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) กรรมสิทธิ์เฉพาะของ FedEx แล้วใช้พลังการประมวลผลของระบบ AI ที่ทรงพลังของ Microsoft ซึ่งนอกเหนือไปจากความโปร่งใสของกระบวนการซัพพลายเชนที่สูงขึ้นในการระบุตำแหน่งของสินค้าระหว่างการขนส่งแล้ว โซลูชันนี้ยังสามารถมอบข้อมูลสภาพตลาดการค้าโดยรวม รวมไปถึงความท้าทายที่เกิดจากปัจจัยภายนอกได้ในแบบเกือบเรียลไทม์ ยกตัวอย่างเช่น สภาพอากาศที่แปรปรวนหรือภัยธรรมชาติ ความล่าช้าจากเงื่อนไขเชิงวิศวกรรม ประเด็นด้านการผ่านพิธีการศุลกากร และข้อมูลที่อยู่ผิดพลาด

โดยความสามารถในการรับรู้ข้อมูลเชิงลึกดังกล่าวข้างต้น จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าของ FedEx Surround สามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการโลจิสติกส์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ FedEx Surround ยังจะเก็บข้อมูลการขนส่งทุกครั้ง เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตจากประวัติข้อมูลที่มี ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการขนส่ง และสร้างระบบนิเวศด้านการพาณิชย์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้MGH Pakistan ส่งมอบหน้ากากอนามัย 10 ล้านชิ้นแก่เยอรมนี ผ่านเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
บทความถัดไปVolga Dnepr ขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์สู่หมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน สู้วิกฤตโควิด-19
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his aspiring smile and quill-tip talents.