DHL Express เปิดเที่ยวบินขนส่งสินค้า เชื่อมต่อเวียดนามและสหรัฐอเมริกา

0
1147

DHL Express ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำ เปิดตัวบริการขนส่งสินค้าเส้นทางใหม่ เชื่อมระหว่าง Ho Chi Minh City ประเทศเวียดนาม และสหรัฐอเมริกา รองรับการค้าระหว่างทั้งสองภูมิภาคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริการในเส้นทางดังกล่าว จะปฏิบัติการโดยสายการบิน Kalitta Air สัปดาห์ละหนึ่งเที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้า รุ่น Boeing 777F ควบคู่ไปกับบริการขนส่งสินค้าในเส้นทาง Ho Chi Minh City – Hong Kong ที่มีอยู่เดิม ซึ่งปฏิบัติการด้วยเครื่องบิน รุ่น Airbus A330 สัปดาห์ละหกเที่ยวบิน 

ภายหลังการขยายขีดความสามารถในการขนส่งทางอากาศในเส้นทาง Intra-Asia และเส้นทางระหว่างทวีปเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท DHL Express ยังคงเดินหน้าขยายขีดความสามารถด้านการขนส่งทางอากาศในเส้นทางอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยการให้บริการขนส่งสินค้าในเส้นทางการบริการใหม่นี้จะนำเสนอพื้นที่ระวางสินค้าที่มากถึง 102 ตัน ให้แก่ลูกค้าในเวียดนาม

สำหรับเส้นทางการบริการใหม่นี้จะเชื่อมต่อท่าอากาศยาน Sydney, Singapore, Ho Chi Minh และ Nagoya เข้าด้วยกัน ก่อนจะปฏิบัติการไปยังปลายทางที่ศูนย์กลาง DHL Express Cincinnati ในสหรัฐอเมริกา โดยเที่ยวบินขนส่งสินค้าใหม่ ซึ่งปฏิบัติการด้วยเครื่องบิน Boeing 777F จะช่วยเพิ่มกำลังการขนส่งขึ้นอีก 27 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นน้ำหนักบรรทุกรวมกว่า 940 ตันต่อสัปดาห์

Mr. Ken Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHL Express Asia Pacific กล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงความต้องการบริการขนส่งด่วนในเส้นทาง Intra-Asia และสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเติบโตของเวียดนามในฐานะศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องประดับ และวัสดุสำหรับตัดเย็บเสื้อผ้า ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้บริการขนส่งสินค้าของเรามีความต้องการมากยิ่งขึ้น และเรามั่นใจว่าเที่ยวบินใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนลูกค้าของเราในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก รวมถึงการก้าวเข้าสู่ตลาดธุรกิจใหม่ๆ”

Mr. Sean Wall รองประธานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายและการบิน บริษัท DHL Express Asia Pacific กล่าวว่า “การเปิดบริการใหม่ในเส้นทาง ระหว่าง Ho Chi Minh City และสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของเรา ในการตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยเครือข่ายขนส่งทางอากาศและเครื่องบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ เราได้มีการประเมินความต้องการของตลาดทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าปรับปรุงเส้นทางการให้บริการของเรา เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพและตรงต่อเวลามากที่สุด แม้ทั่วโลกจะยังต้องเผชิญกับปัญหาด้านการขาดแคลนพื้นที่ระวางสินค้าก็ตาม”


 

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Qatar Airways Cargo พร้อมให้บริการด้วยตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ Envirotainer Releye® RAP
บทความถัดไปDSV เตรียมเปิดคลังสินค้ามาตรฐาน DGNB ใกล้ Copenhagen