Deutsche Post DHL Group เผยกลยุทธ์ Strategy 2025 เร่งขยายการเติบโตด้วย Digital Transformation

0
6635

Deutsche Post DHL Group ประกาศแผนกลยุทธ์ ‘Strategy 2025 – Delivering excellence in a digital world’ พร้อมวางรากฐานต่อยอดความสำเร็จขึ้นอีกขั้นจากแผนกลยุทธ์ ‘Strategy 2020’

Deutsche Post DHL จะยังคงมุ่งสร้างการเติบโตและผลกำไรระยะยาวให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก พร้อมเพิ่มการลงทุนด้าน digital transformation ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยตลอด 5 ปีข้างหน้านี้ กลุ่มบริษัทฯ จะเพิ่มการลงทุนอีก 2 พันล้านยูโร (ประมาณ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการปรับกระบวนการทำงานสู่ดิจิทัล (digitalization) ตัวเลขดังกล่าวนี้บันทึกอยู่ในแผนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Opex) และรายจ่ายลงทุน (Capex) แล้ว และการลงทุนด้านดิจิทัลดังกล่าวคาดว่าจะนำมาซึ่งรายได้ต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.66 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในปี 2025

“เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการเติบโตในอนาคตจะมาจากการโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ทำผลกำไรให้กับเรา โดยการปรับเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลจะเป็นตัวผลักดันที่ดีที่สุด” Mr. Frank Appel ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “เราไม่จำเป็นต้องสร้างตัวเองใหม่ แต่เราจะทำให้ตัวเองมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น”      

ก่อนหน้านี้ กลยุทธ์ ‘Strategy 2020 – Focus. Connect. Grow.’ ได้พา Deutsche Post DHL ขึ้นเป็นผู้นำในแต่ละตลาด ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มบริษัทฯ ยังได้เรียนรู้บทเรียนที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป “ประสบการณ์ชี้ให้เห็นว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อนำทรัพยากรและนวัตกรรมมาใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา” Mr. Appel กล่าว “ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ยกเลิกกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของเราตลอด 2-3 ปีมานี้ ควบคู่ไปกับการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวให้กับธุรกิจหลักของเรา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเครือข่ายและการปรับฝูงบินสำหรับธุรกิจขนส่งด่วนข้ามทวีป ตลอดหลายปีมานี้ เรายังเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้และทำกำไรของหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ ธุรกิจขนส่งด่วนและซัพพลายเชน เป็นต้น”

สำหรับแผนกลยุทธ์ ‘Strategy 2025’ กลุ่มบริษัท Deutsche Post DHL Group มองว่า 4 เทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ได้แก่ โลกาภิวัตน์ (Globalization), อี-คอมเมิร์ซ (E-Commerce), การปรับสู่ดิจิทัล (Digitalization) และความยั่งยืน (Sustainability) จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไปในอนาคต และ Strategy 2025 คือแผนการใหม่ที่จะเป็นคำตอบของกลุ่มบริษัทฯ ในการรับมือกับเทรนด์เหล่านี้ 

ปัจจุบัน Deutsche Post DHL Group ประกอบด้วย 5 กลุ่มธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ในประเทศเยอรมนี (Post & Parcel Germany), กลุ่มธุรกิจขนส่งด่วนระหว่างประเทศ (Express), กลุ่มธุรกิจตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้า (Global Forwarding), กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล (Freight), กลุ่มธุรกิจซัพพลายเชน (Supply Chain) และกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซ (eCommerce Solutions) ซึ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถกำหนดกลยุทธ์ได้เองโดยยึดจากส่วนที่ทำกำไร และสิ่งหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเติบโตให้กับทุกกลุ่มธุรกิจคืออีคอมเมิร์ซ โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจได้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตของโซลูชั่นต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นบริการโลจิสติกส์สำหรับนำเข้าสินค้า การบริหารจัดการคลังสินค้า การส่งมอบสินค้า ไปจนถึงการส่งคืนสินค้า “เราเป็นบริษัทเดียวที่สามารถให้บริการได้ทุกองค์ประกอบ รวมถึงซัพพลายเชนอีคอมเมิร์ซทั้งระบบที่มีสเกลระดับโลก นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับเรา” Mr. Appel กล่าว 

นอกจากการให้ความสำคัญกับส่วนที่ทำกำไรแล้ว Deutsche Post DHL Group มองว่าการปรับเปลี่ยนกระบวนการสู่ดิจิทัลอย่างเป็นระบบในทุกกลุ่มธุรกิจจะเป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น ตลอด 5 ปีข้างหน้านี้ กลุ่มบริษัทฯ จะลงทุนกว่า 2 พันล้านยูโรในโครงการต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและพนักงาน รวมถึงเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ยอดเยี่ยมขึ้น  

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Korean Air เปิดเส้นทางใหม่สู่จีนและฟิลิปปินส์
บทความถัดไปTurkish Cargo คว้ามาตรฐานความปลอดภัยจาก TAPA
Thanathas Akkhachotkawanich
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his aspiring smile and quill-tip talents.