DB Schenker จับมือ Lufthansa Cargo เปิดตัวเส้นทางบินขนส่งสินค้า ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

DB Schenker ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ชั้นนำ และ Lufthansa Cargo สายการบินขนส่งสินค้าชั้นนำ ร่วมเปิดตัวบริการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์ที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์เที่ยวบินแรก ปฏิบัติการโดยเครื่องบินขนส่งสินค้า Boeing 777F ซึ่งจะให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างท่าอากาศยาน Frankfurt และท่าอากาศยาน Shanghai Pudong โดยใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ซึ่งจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นในปริมาณราว 174 เมตริกตันต่อสัปดาห์

Mr. Jochen Thewes ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DB Schenker กล่าวว่า “ปัจจุบัน ซัพพลายเชนที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในอุตสาหกรรมการบิน เที่ยวบินรายสัปดาห์ของเราระหว่าง Frankfurt และ Shanghai ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่สามารถจูงใจลูกค้าจำนวนมากให้หันมาสนใจผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตนี้ ในขั้นถัดไป ธุรกิจและการเมืองต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มความสามารถในการผลิตเชื้อเพลิงและสนับสนุนการบินที่สะอาด”

Ms. Dorothea von Boxberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน Lufthansa Cargo กล่าวว่า “ด้วยเที่ยวบินขนส่งสินค้าที่ยั่งยืนเที่ยวแรกของโลกภายใต้การร่วมมือกับ DB Schenker ในช่วงปลายปี 2020 เราได้แสดงให้เห็นว่าการบินที่ปราศจากการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นเป็นไปได้ วันนี้ เราได้ร่วมกันเปิดตัวบริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าที่ยั่งยืนเส้นทางแรกของโลก ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มีบริการแบบเดียวกันนี้เพิ่มมากขึ้น เราเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมของเรา และความทุ่มเทของผู้ใช้บริการที่จะต้องร่วมกันทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ”

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนผลิตจากขยะชีวภาพเป็นหลัก เช่น ผักและน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว ซึ่งเมื่อมีการเผาไหม้ในเครื่องยนต์จะมีการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เท่ากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่พืชน้ำมันซึมซับไปในระหว่างการเติบโต

นอกจากนี้ ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากโรงงานและระหว่างการขนส่งเชื้อเพลิงจะถูกชดเชยโดยโครงการชดเชยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นการการันตีว่าเที่ยวบินจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์อย่างแท้จริง

ปริมาณเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนที่ DB Schenker และ Lufthansa Cargo ใช้ในแต่ละสัปดาห์มีปริมาณเท่ากับเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น 174 เมตริกตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ต้องใช้ในการเดินทางไปและกลับจาก Shanghai แต่ด้วยเหตุผลทางเทคนิคและกฎหมาย ทำให้ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้ SAF เป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินเพียงอย่างเดียวได้ จึงต้องมีการผสมระหว่าง SAF และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นแบบมาตรฐานผ่านระบบเติมเชื้อเพลิงในท่าอากาศยาน และใช้งานในสัดส่วนตามที่กำหนดในการเติมเชื้อเพลิงครั้งต่อๆ ไป

สำหรับเที่ยวบินในช่วงฤดูร้อนของ Lufthansa Cargo จะมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20,350 เมตริกตัน โดย 16,200 เมตริกตัน จะเกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนโดยตรง ปัจจุบัน ลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมในบริการนี้มีทั้ง Mercedes-Benz, ZF และ Merck ซึ่งจะได้รับเครดิตในการลดรอยเท้าคาร์บอนตามสัดส่วน

ปัจจุบัน SAF มีราคาสูงกว่าเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ผลิตจากฟอสซิลถึงสามเท่า และปริมาณที่มีในท้องตลาดก็มีจำกัด ด้วยการเปิดตัวเที่ยวบินขนส่งสินค้าแบบยั่งยืนนี้ DB Schenker และ Lufthansa Cargo จะส่งเสริมให้บริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ รวมทั้งนักการเมืองให้เข้าร่วมขยายการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน และผลักดันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในการลดการปลดปล่อยคาร์บอนต่อไปในอนาคต

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่